โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ครั้งที่ 2


โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติ
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ครั้งที่ 2

โดย มูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ แพทยสภา
และนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์ สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 6 (ปธพ.6)
ณ โรงพยาบาลอานันทมหิดล จังหวัดลพบุรี

           มูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ แพทยสภา สถาบันพระปกเกล้า กระทรวงสาธารณสุขและนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์รุ่นที่ ๖ (ปธพ.๖)และภาคีเครือข่าย ยกทีม แพทย์เฉพาะทางอาสา จัดโครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ครั้งที่ ๒ ร่วมมือ ๓ โรงพยาบาล รพ.อานันทมหิดล รพ.พระนารายณ์มหาราช รพ.มะเร็งลพบุรี โดยนำแพทย์เฉพาะทางกว่า 200 คน จากคณะแพทยศาสตร์ 21 แห่ง ราชวิทยาลัย/วิทยาลัยแพทย์ 15 แห่ง แพทย์จากภาครัฐ แพทย์จาก 4 เหล่าทัพ แพทย์จากภาคเอกชนพร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ท้องถิ่นขาดแคลน และ บุคลากรอื่นๆ กว่า 1,500 คน ให้บริการตรวจ รักษา-ผ่าตัดโรคยากซับซ้อน ต่อผู้ป่วยที่มีคิวรอยาวนาน โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายทั้ง 20 คลินิกเฉพาะทาง ประกอบด้วย 1.คลินิกศัลยกรรม (Surgical endoscopy) การส่องกล้องทางเดินอาหารเพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ กระเพาะอาหาร และการผ่าตัดรักษาโรคไส้เลื่อนผนังหน้าท้อง 2.คลินิกมะเร็งเต้านม (Mammogram) การตรวจมะเร็งเต้านมด้วยเครื่อง ดิจิตอล แมมโมแกรม และวินิจฉัยความผิดปกติของเต้านมในสตรี 3.คลินิกจักษุ ตรวจคัดกรองและผ่าตัดต้อกระจก 4.คลินิกหัวใจและหลอดเลือด ให้บริการตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยโรคหัวใจด้วยเครื่องมือพิเศษ คือ เครื่องวิ่งสายพานและการทำเอคโค่หัวใจและให้การตรวจรักษาด้วยการฉีดสีสวนหัวใจและใส่ขดลวดเพื่อรักษาเส้นเลือดหัวใจตีบ 5.คลินิกระบบประสาท (ป้องกันStroke) คัดกรองภาวะหัวใจเต้นไม่ตรงจังหวะซึ่งเป็นความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง 6.คลินิกกายอุปกรณ์ ขาเทียม รถเข็น ให้บริการผลิตและซ่อมแซมแขน-ขาเทียม บริการอุปกรณ์ช่วยการเดินสำหรับคนพิการ 7.คลินิกศูนย์ผู้พิการเคลื่อนที่ ตรวจประเมินความพิการทางการเคลื่อนไหว และออกเอกสารรับรองความพิการ 8.คลินิกการสอน CPR การสร้างความพร้อมการกู้ชีพ CPR ให้ชาวลพบุรี โดย ทีมกู้ชีพ พร้อม หุ่นสอน CPR 100 ตัว 9.คลินิกสูติ-นรีเวช ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ตรวจวินิจฉัยสตรีตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูง ตรวจก้อนในอุ้งเชิงกรานสตรีด้วยเครื่องตรวจคลื่นเสียงความถี่สูง และตรวจโรคทางสูตินรีเวชกรรมทั่วไป 10.คลินิกพัฒนาการเด็ก ตรวจรักษาผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาด้านพัฒนาการที่ซับซ้อน ให้คำแนะนำ และจัดอบรมบุคลากรในพื้นที่ 11.คลินิกเด็กอ้วน ตรวจประเมิน ดูแลรักษาเบื้องต้นและให้คำแนะนำเด็กที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ พบกับฐานกิจกรรมที่สนุกสนานเพื่อการปรับพฤติกรรมที่ได้ผล 12.คลินิกข้อเข่าเสื่อมและเวชศาสตร์ฟื้นฟู ตรวจรักษาผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมโดยการฉีดยาเข้าข้อเข่าและโรคทางเวชศาสตร์ฟื้นฟูด้วยเครื่องมือไฮเทคโนโลยี 13.คลินิกทันตกรรม ให้คำปรึกษาโรคทางช่องปาก,ครอบฟัน ด้วยนวัตกรรมล่าสุด, ผ่าฟันคุด,การขูดหินปูน ถอนฟัน และอุดฟัน 14.คลินิกหู คอ จมูก ให้การตรวจ วินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านหูคอจมูก บริการตรวจการได้ยินและจัดหาเครื่องช่วยฟังให้ผู้ป่วยที่มีปัญหาทางการได้ยิน ให้การผ่าตัดปะแก้วหูในผู้ป่วยเยื่อแก้วหูทะลุ และให้บริการฝึกพูดในผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องการพูด 15.คลินิกผิวหนัง ปรึกษาปัญหาโรคผิวหนัง การดูแลสุขภาพผิวพรรณ 16.คลินิกตรวจสุขภาพและคัดกรองโรคทั่วไป ตรวจคัดกรองโรคกลุ่มเมตาบอลิกซินโดรม โรคอ้วน, เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง, ไขมันในเลือดสูง, โรคหัวใจ, โรคไต, โรคตับ เพื่อตรวจคัดกรองโรคมะเร็งที่พบบ่อย เช่น มะเร็งเต้านม, มะเร็งปอด รวมทั้งวัณโรคปอด ในกลุ่มผู้สูงอายุ และพระสงฆ์ ในเขต จ.ลพบุรี 17.คลินิกเทคนิคการแพทย์ ให้บริการตรวจทางห้องปฎิบัติการ สำหรับคัดกรองโรคภาวะหัวใจห้องบนเต้นสั่นพลิ้ว (Atrial Fibrillation) , ผู้ป่วยเบาหวาน (HbA1C) , มะเร็งลำไส้ใหญ่ (FIT Test) ,โรคจากเชื้อซิฟิลิส และตรวจทางพยาธิคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีพิเศษ Liquid-based Pap test 18.คลินิกรับบริจาคโลหิต รับบริจาคโลหิต จากผู้มีจิตศรัทธา 19.คลินิกรับปรึกษาด้านกฎหมาย ให้บริการ คำปรึกษาปัญหาทางกฎหมาย ตรวจสอบสิทธิการรักษา แจกหนังสือความรู้ทางกฎหมาย 20.คลินิกแพทย์แผนไทยและฝังเข็ม รักษาด้วยสมุนไพร ศาสตร์แพทย์แผนไทย และ ฝังเข็มดูแลโรคตามศาสตร์แพทย์แผนจีน 21.คลินิกตรวจสุขภาพทั่วไปคัดกรองเบาหวาน ตรวจและวินิจฉัยโรคเบาหวานโดยใช้ชุดตรวจน้ำตาลและฮีโมโกลบินเอวันซี(น้ำตาลสะสม)จากเลือดปลายนิ้วและรับคำปรึกษาจากแพทย์ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทันตแพทย์ พยาบาล และเภสัชกรกว่า 500 คนจากหลายโรงพยาบาล อาทิ รพ.ศิริราช, รพ.จุฬาฯ, รพ.รามาธิบดี, รพ.ราชวิถี, รพ.พระมงกุฎเกล้า, รพ.ภูมิพลฯ, สถาบันประสาทวิทยา สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี รพ.เอกชนชั้นนำ ฯลฯ ตลอดจน ราชวิทยาลัยแพทย์ และ แพทยสภา ระหว่างวันที่ ๔-๖ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ณ โรงพยาบาลอานันทมหิดล , โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช และ โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี จังหวัดลพบุรี

           โครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางฯ ครั้งนี้ ได้เลือกมาจัดที่จังหวัดลพบุรี เป็นจังหวัดในภาคกลางตอนบน ที่มี ประชากร 7 แสนคน มีพื้นที่ 6,586.67 ตารางกิโลเมตร มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของกองกำลังทั้งทหารบกและทหารอากาศหลายหน่วย เป็นศูนย์กลางทางด้านการทหาร กองกำลังทางการรบ และในปัจจุบันเป็น "เมืองเศรษฐกิจ เมืองท่องเที่ยว ศูนย์การศึกษาของภาคกลางตอนบน และยังเป็นเมืองทหารอีกด้วย" ลพบุรีได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มีลิงอาศัยอยู่มาก เป็นจังหวัดที่มีผู้สูงวัยอายุยืนจำนวนมาก มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจำนวนน้อย ทำให้ระบบรักษาพยาบาลโรคยากซับซ้อนยังไม่เพียงพอ เป็นที่มาของการออกหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางฯ ซึ่งโครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางฯ ครั้งนี้ ได้เลือกมาจัดที่โรงพยาบาลอานันทมหิดล สังกัดกรมแพทย์ทหารบก ซึ่งเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกของกองทัพบกไทย และเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่เป็นลำดับที่สาม ของกองทัพบกรองจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลค่ายสุรนารี และเป็นโรงพยาบาลที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลฯ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จฯ มากระทำพิธีเปิดเป็นปฐมฤกษ์ เมื่อวันศุกร์ที่ ๖ มกราคม ๒๔๘๑ ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับวันเปิดค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยในระยะแรกได้เปิดดำเนินการ ๒๐๐ เตียง ต่อมา ได้มีการพัฒนาและขยายอาคารสถานที่ และเพิ่มศักยภาพมาโดยตลอด โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อดำเนินการ เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล , งานเวชกรรมป้องกัน และงานส่งเสริมสุขภาพแก่ ทหาร ครอบครัว ตลอดจนถึงประชาชนทั่วไป ซึ่งถือเป็นโรงพยาบาลหลักในการจัดโครงการครั้งนี้

           โดยได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ เกียรติคุณ นายแพทย์ เกษม วัฒนชัย ประธานมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ พร้อมด้วย ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์ ประสิทธิ์ วัฒนาภา นายกแพทยสภา ศาสตราจารย์คลินิก นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายวิทวัส ชัยภาคภูมิ รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และคณะ ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดโครงการหน่วยแพทย์อาสาเฉพาะทางร่วมใจเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ครั้งที่ ๒ โดยมีประชาชนเข้ารับบริการเกินกว่า เป้าหมายที่ตั้งไว้ 10,000 คนถึง 6,506 คน โดยจะมีประชาชนเข้ารับการตรวจรักษาทั้งสิ้น 16,506 ราย ซึ่งโครงการฯ ดำเนินงานสำเร็จลุล่วง สมดังวัตถุประสงค์ทุกประการ และถือได้ว่าเป็นการมอบโอกาสในการรักษาโรคเฉพาะทางได้อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของประเทศไทย